กับ…ความภาคภูมิใจ นำธุรกิจไทยไปปักธงในภูมิภาคต่างๆในเอเชีย
นายสัตวแพทย์ธานินทร์ ชีวะผลาบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทในเครือ เวทโปรดักส์
ได้เปิดเผยว่า…….ปี 2563 เป็นปีที่ เวทโปรดักส์ กรุ๊ป ครบรอบ 26 ปี บริษัทได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ ทั้งหมด 13 บริษัท ทั้งภาคปศุสัตว์ และ โรงพยาบาลสัตว์ ในภาคปศุสัตว์นั้นเรามีธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีประเทศที่เวทโปรดักส์ กรุ๊ปเข้าไปตั้งในรูปบริษัทได้แก่ ประเทศจีน เวียดนาม ฟิลิปปินส์ พม่า กัมพูชา และ ลาว นอกจากนั้นยังมีการส่งผลิตภัณฑ์ ของบริษัทฯไปจำหน่ายในประเทศต่างๆ หลายๆประเทศอีกด้วย เราขยายงานครบแทบทุก Sector ได้แก่ สุกร สัตว์ปีก สัตว์เคี้ยวเอื้อง และ สัตว์น้ำ นอกจากนั้น ในปีที่ผ่านมาได้รุกตลาดไปที่โรงงานอาหารสัตว์อีกด้วย ในส่วนของโรงพยาบาลสัตว์ ในนาม โรงพยาบาลสัตว์ไอเว็ท มี 5 สาขา โดย 3 สาขาตั้งอยู่ในประเทศไทย ส่วนอีก 2 สาขาตั้งอยู่ที่ประเทศเวียดนาม และ ลาว |
นอกจากนั้นเราได้ก่อตั้ง สำนักเทคนิคเวทโปรดักส์ กรุ๊ป ในนาม ITAC (The International Technical and Academic Center) มีภารกิจในการส่งเสริมการผลิตครบวงจร ทั้งด้านการจัดการ , โรค , อาหารสัตว์ รวมถึง มาตรฐานต่างๆ และยังเป็นศูนย์แห่งการเรียนรู้ด้านวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย
และเพื่อเป็นการตอกย้ำ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เวทโปรดักส์ กรุ๊ป ได้ก่อตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในนาม VRI (Vet Products Group Research and Innovation Center)ด้วยกลยุทธ์ในการพัฒนาสร้างสรรผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาจจะ 10 ปี 50 ปี หรืออีก 100ปี เป็นการมอง Trend ระยะยาว และไปดัก Trend ตรงจุดนั้น
เราขยายตัวอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20 % ในทุกปี ณ วันนี้ เวทโปรดักส์ กรุ๊ปถือว่าเป็นองค์กรข้ามชาติขนาดใหญ่แต่เรากระจายการทำงานไปที่ภาคส่วนต่างๆเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและยืดหยุ่น เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด พนักงานทำงานอย่างมีความสุข มีความก้าวหน้าและมั่นคงในชีวิตการทำงาน
ในนามของผู้บริหาร และ พนักงานในเครือ เวทโปรดักส์ ขอขอบคุณ ผู้มีอุปการะคุณทุกท่านที่ใช้บริการและสนับสนุนการทำงานของบริษัทฯมาโดยตลอด เราขอให้คำมั่นสัญญาว่า มุ่งเน้นคุณภาพของสินค้า และบริการเป็นสำคัญ และจะพัฒนาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า
Success story of 26 th year of Vet Products Group: ASP as a Leading International Manufacture.
ได้กล่าวถึงเส้นทางความสำเร็จในมุมมองที่ตนเองได้รับผิดชอบตั้งแต่ 26 ปีที่แล้ว ……โดยเริ่มต้นจากงานฝ่ายขายและการตลาดของ บริษัท เวทโปรดักส์แอนด์คอนซัลแตนท์ จำกัด ในช่วง 2-3 ปีแรกในการสร้างฐานลูกค้าจนได้รับความไว้วางใจ ทำให้มีลูกค้าตอบรับเป็นอย่างดี จากนั้นจึงไปรับผิดชอบและเติบโตในสายงานฝ่ายวิชาการของเครือบริษัทฯอีก 6 ปี ด้วยการพัฒนางานวิชาการในการส่งเสริมการผลิตของฟาร์ม และพัฒนาทีมที่ปรึกษาให้กับฟาร์มของลูกค้า และร่วมเป็นกองบรรณาธิการวารสาร “เวทไดเจสต์” ซึ่งนำเสนอความรู้วิชาการที่ทันสมัยในหลากหลายแง่มุมเพื่อการพัฒนาฟาร์มและปศุสัตว์ และเป็นหนึ่งในผู้ที่รับผิดชอบการขยายงานวารสารเวทไดเจสต์ไปสู่ต่างประเทศอีกด้วย
ด้วยวิสัยทัศน์ของเครือเวทโปรดักส์ คุณหมอวินัยได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บุกเบิกและรับผิดชอบในการขยายธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของเครือตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน การค้าระหว่างประเทศของเครือได้เริ่มต้นด้วยการส่งออกไปประเทศเวียดนาม และในปี 2548 คุณหมอวินัยได้รับตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป ของบริษัท แอนิมัล ซัพพลีเมนท์ แอนด์ฟาร์มาซูติคอล จำกัด(ASP) และกรรมการบริหารของเครือบริษัท ในช่วงนั้นภารกิจด้านงานต่างประเทศจะชะลอตัวลง แล้วไปเน้นงานด้านพัฒนาโรงงานผลิตพรีมิกซ์ อาหารเสริมและยาสำหรับสัตว์ โดยเพิ่มระบบมาตรฐานจ าก ISO 9001 : 2000 ในขณะนั้น (ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่น 2008แล้ว) มาเป็นได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP & HACCPจากกรมปศุสัตว์ และมาตรฐานGMP จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งภายหลังทาง อย.ได้ปรับเปลี่ยนให้เป็นมาตรฐาน GMP PIC/S เราก็ได้ปรับเปลี่ยนตามและได้รับรองมาตรฐานนี้เช่นกัน นอกจากนี้ ASPยังได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Quality Mark จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งนับเป็นรายแรกในวงการโรงงานยาสัตว์ไทย
สำหรับปี2563 เราวางแผนเพิ่มศักยภาพในการผลิตของASPอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเพิ่มระบบมาตรฐานระดับยุโรปอย่าง FAMI-QS เข้ามาในสายการผลิต เพื่อเพิ่มความเป็นมาตรฐานด้านวัตถุดิบและอาหารเสริมสำหรับสัตว์ที่เน้นด้านคุณภาพและความปลอดภัยด้วยมาตรฐานระดับยุโรป
สำหรับภารกิจด้านงานต่างประเทศนั้น ทางคุณหมอวินัยได้รับมอบหมายจากเครือเวทโปรดักส์ให้เริ่มต้นการลงทุนที่เวียดนามในปี 2551 ณ เมืองโฮจิมินส์ เมื่อกิจการเติบโตด้วยดีแล้ว ทางทีมงานจึงได้ขยายต่อไปที่เมืองฮานอย และล่าสุดที่ดานัง จากโมเดลเวียดนาม คุณหมอวินัยจึงได้บุกเบิกและขยายการลงทุนต่อไปที่ประเทศฟิลิปปินส์ในปี 2553 และช่วยทีมงานขยายงานในประเทศจีน ณ เมืองกวางโจวในปี 2555 จากนั้นคุณหมอวินัยจึงไปขยายการลงทุนต่อในประเทศกัมพูชาในปี 2556 สำหรับสปป.ลาวนั้นทางคุณหมอบุญมี ครองแสนเมือง รับไปขยายการลงทุนต่อในปีเดียวกัน และล่าสุดคุณหมอวินัยได้ขยายกา%