Lab โคเนื้อ: ความสำคัญของแลบในการทำฟาร์มโคเนื้อ
ในธุรกิจการเลี้ยงโคเนื้อจะเป็นลักษณะการเลี้ยงแบบระบบฟาร์มปิด ทำให้การซื้อโคเข้าฟาร์มนั้นเกิดขึ้นเป็นส่วนน้อย แต่หากมีการนำโคจากแหล่งอื่นเข้าฟาร์มแต่ละครั้งจำเป็นต้องมีการตรวจโรคก่อนเสมอ สำหรับการตรวจโรคในโคที่รับเข้าฟาร์มที่สำคัญ คือ โรคแท้งติดต่อ หรือ Brucellosis ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ ส่วนโรคปากเท้าเปื่อย (Food and Mouth Disease) จะไม่มีการตรวจสำหรับการเลี้ยงเพื่อบริโภคหรือจำหน่ายภายในประเทศ แต่จะมีตรวจในบางกรณีสำหรับการส่งออกพ่อแม่พันธุ์หรือการทำฟาร์มปลอดโรคปากเท้าเปื่อย
โดยเป็นการตรวจภูมิคุ้มกันแบบเฉพาะซึ่งต่างจากการตรวจภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน นอกจากนั้นจะเป็นการตรวจสุขภาพเมื่อพบว่ามีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นในฟาร์ม เช่น การเจาะเก็บเลือดเพื่อประเมินสุขภาพของโคตัวนั้นๆ ซึ่งสุขภาพที่ดีของโคมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยอธิบายได้ว่าเมื่อโคอารมณ์ดี การกินจะดีขึ้น การเจริญเติบโตดี รวมถึงให้ผลผลิตที่ดีตามมา โดยสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องการจัดการอาหาร สัดส่วนระหว่างหญ้าและอาหารข้นต้องมีความเหมาะสม มีการชั่ง ตวง วัด ที่แม่นยำ รวมถึงมีการตรวจค่าโภชนะในอาหารโดยห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งค่าโภชนะที่มีการตรวจวิเคราะห์ได้แก่ เยื่อใย (fiber) โดยการวิเคราะห์ค่าองค์ประกอบของ NDF และ ADF ที่เป็นตัวกระตุ้นการเคี้ยวของโค เป็นต้น
ขนาดของอาหารต้องมีขนาดที่ไม่เล็กหรือไม่ยาวเกินไป สำหรับอาหารข้นค่าโปรตีนจะเท่ากับ 18 – 20% ในแม่พันธุ์ และ 14 – 16% ในโคขุน วิธีการตรวจวิเคราะห์ค่าโภชนะในอาหารของโคจึงมีความสำคัญเพื่อเป็นการยืนยันว่าอาหารที่ให้โคกินนั้นมีคุณภาพเพียงพอต่อการเจริญเติบโตและการมีสุขภาพที่ดี การเก็บตัวอย่างอาหารไปตรวจวิเคราะห์ทำได้โดยการสุ่มเก็บจากกองอาหารขนาดใหญ่ประมาณ 10 ตำแหน่ง และทำการสุ่มซ้ำอีกหนึ่งครั้ง การสุ่มอาหารเพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์นั้นมักทำเมื่อมีการปรับสูตรอาหารใหม่ โดยสรุปได้ว่าการตรวจแลบในการทำฟาร์มโคเนื้อนั้นมีความสำคัญตั้งแต่การตรวจโรคก่อนนำโคเข้าฟาร์ม หรือการทำระบบฟาร์มปลอดโรค รวมถึงการตรวจค่าโภชนะที่สำคัญในอาหารซึ่งเป็นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับโคเนื้อและสร้างผลผลิตที่ดีต่อเจ้าของฟาร์มอีกด้วย